5 Tips about จดทะเบียนสมรสเท่าเทียม You Can Use Today
5 Tips about จดทะเบียนสมรสเท่าเทียม You Can Use Today
Blog Article
“ชื่อที่ตั้งให้ผู้หญิงก็ควรเป็นชื่อที่แสดงออกถึงความเป็นผู้หญิง ไม่ควรใช้ชื่อลักษณะเป็นชาย ส่วนผู้ชายก็ควรมีชื่อที่ตรงกับเพศสภาพ การแสดงต่าง ๆ ก็ควรใช้นักแสดงที่ตรงกับเพศกำเนิดมาเล่นเป็นตัวพระตัวนาง ไม่ควรใช้ผู้ชายเล่นเป็นตัวนาง หรือผู้หญิงเล่นเป็นตัวพระก็ไม่ได้ มันจึงเป็นการปฏิวัติทางวัฒนธรรม ทำให้คนข้ามเพศที่เคยมีบทบาทในพื้นที่การแสดง ก็ต้องปรับเปลี่ยนไปทำงานอย่างอื่น หากอยู่ในท้องถิ่นชนบทก็ยังพอแสดงได้ แต่ก็อยู่แบบตามมีตามเกิดเพราะรัฐไม่ได้สนับสนุน”
สิทธิในการแต่งงานที่เท่าเทียม นำมาซึ่งสิทธิที่เท่าเทียมกันหากคู่รักใช้ชีวิตมาจนจุดแยกจากกันด้วย โดยจะมีสิทธิในการฟ้องหย่า สิทธิในการฟ้องร้องอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกัน เช่น สิทธิการเลี้ยงดูบุตร การเรียกค่าเลี้ยงชีพตามแต่กรณีการหย่าร้างที่เกิดขึ้น และสิทธิในสินสมรส
ความคืบหน้า ‘สมรสเท่าเทียม’ จะได้จดทะเบียนเมื่อไร?
“สมรสเท่าเทียม” ชัยชนะที่ยังเผชิญความท้าทาย
ทุกบุคคลจะได้รับความเท่าเทียม และได้รับความคุ้มครองทางกฎหมาย ตามหลักความเสมอภาคและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ มีสิทธิในการหมั้น, สิทธิจดทะเบียนสมรส, สิทธิจัดการทรัพย์สินของคู่สมรส, สิทธิเป็นผู้จัดการแทนในทางอาญาเช่นเดียวกับสามี-ภรรยา, สิทธิรับมรดกหากอีกฝ่ายเสียชีวิต, สิทธิรับบุตรบุญธรรม, สิทธิรับมรดกในฐานะทายาทโดยธรรม, สิทธิเซ็นยินยอมให้รักษาพยาบาลอีกฝ่าย, สิทธิจัดการศพ เป็นต้น
เปิดข้อควรรู้-ข้อห้าม "สมรสเท่าเทียม" สิทธิทางกฎหมายที่ "คู่สมรส" จะได้รับ
ร.บ. ของ ครม. ที่ไม่ได้ระบุเรื่องนี้ไว้
ในร่าง พ.ร.บ. ของ ครม. นั้น ได้กำหนดให้ “นายกรัฐมนตรี” เป็นผู้รักษาการตามร่าง พ.
นอกจากนั้นในมุมมองเรื่องหมั้น ที่แต่เดิมให้ชายโดยกำเนิดเท่านั้นที่จะเป็นผู้รุกเริ่มนำของหมั้นไปหมั้นหญิง ก็กลับกลายเป็นว่าใครใคร่หมั้นก็หมั้น ไม่มีข้อที่จะต้องบังคับกะเกณฑ์ว่าเพศชายต้องเป็นฝ่ายรุกเริ่ม ซึ่งหมายความว่า กฎหมายให้อิสระในการกำหนดชีวิตเป็นสถาบันครอบครัวของบุคคลโดยไม่คำนึงเพศ แม้กระทั่งเรื่องฝ่ายเริ่มต้นเข้าหาอีกฝ่ายเพื่อการมอบของหมั้น ก็ไม่มีการกำหนดเจาะจงเพศอีกต่อไป
ขณะที่ชวินโรจน์ ชี้ว่าเมื่อดูเจตจำนงทางการเมืองของสภาผู้แทนราษฎร เห็นว่า ความท้าทายไม่ใช่เรื่องการผ่านหรือไม่ผ่านกฎหมาย เนื่องจากท่าทีของฟากรัฐบาล ร่างกฎหมายนี้น่าจะผ่านแน่นอน แต่ความท้าทายก็คือ ร่างกฎหมายตัวหลักจะถูกพัฒนาให้เป็นร่างที่ดีที่สุดหรือไม่ จากกรรมาธิการในชั้นต่อไป
ในอนาคตสามารถจดทะเบียนสมรสในประเทศไทยได้ รวมถึงมีกฎหมายรองรับพิธีกรรมอื่น ๆ เช่น สิทธิการหมั้น การจดทะเบียนสมรส รวมถึงการจัดการทรัพย์สินของคู่สมรส รวมไปถึงการเป็นตัวแทนทางกฎหมาย สิทธิรับมรดกในฐานะทายาทโดยธรรม และสิทธิได้รับประโยชน์จากสวัสดิการจากรัฐ (อาทิ สวัสดิการข้าราชการ รับประโยชน์ทแทนตามสิทธิประกันสังคม) นอกจากนี้ยังได้สิทธิในการขอสัญชาติอีกด้วย
พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี คือการแต่งกายให้ตรงเพศสภาพ
คดี จดทะเบียนสมรสเท่าเทียม “ป้าบัวผัน” สะท้อนปัญหางานสอบสวนตำรวจไทย และทัศนคติ “เป็นลูกตำรวจทำอะไรก็ไม่ผิด” หรือไม่
นอกจากนั้นในมุมมองเรื่องหมั้น ที่แต่เดิมให้ชายโดยกำเนิดเท่านั้นที่จะเป็นผู้รุกเริ่มนำของหมั้นไปหมั้นหญิง ก็กลับกลายเป็นว่าใครใคร่หมั้นก็หมั้น ไม่มีข้อที่จะต้องบังคับกะเกณฑ์ว่าเพศชายต้องเป็นฝ่ายรุกเริ่ม ซึ่งหมายความว่า กฎหมายให้อิสระในการกำหนดชีวิตเป็นสถาบันครอบครัวของบุคคลโดยไม่คำนึงเพศ แม้กระทั่งเรื่องฝ่ายเริ่มต้นเข้าหาอีกฝ่ายเพื่อการมอบของหมั้น ก็ไม่มีการกำหนดเจาะจงเพศอีกต่อไป